วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

สวัสดีค่ะ ^^ ทุกท่านที่มาเยี่ยมชม blog : สร้างสรรค์
        วันนี้เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินมาบ้างแล้ว แต่ไม่ทราบว่า คืออะไร
ปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์มีหลายภาษา เราจึงของเลือกภาษา C
มาแนะนำเพื่อน ๆ เชื่อว่าภาษาภาษา C เพื่อน ๆ คงรู้จัก หรือ คุ้นหู
ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับภาษาคอมพิวเตอร์ กันเลย.....!!


                              (ขอบคุณรูปจาก : www.ubergizmo.com  )


ภาษาคอมพิวเตอร์ (Computer Language) หมายถึง โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่มนุษย์เขียนขึ้น เพื่อสั่งงานให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการ ภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีมากมาย แต่ละภาษาจะมีลักษณะโครงสร้างและกฎเกณฑ์ที่แตกต่างกัน


คลิกชมภาพต่อไป

                                      (ขอบคุณรูปจาก : guru.sanook.com)

ภาษาซี(C Programming Language) คือ ภาษาคอมพิวเตอร์ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรมทั่วไป ถูกพัฒนาครั้งแรก เพื่อใช้เป็นภาษาสำหรับพัฒนาระบบปฏิบัติการยูนิกซ์(Unix Opearating System)แทนภาษาแอสเซมบลี ซึ่งเป็นภาษาระดับต่ำที่สามารถกระทำในระบบฮาร์ดแวร์ได้ด้วยความรวดเร็ว แต่จุดอ่อนของภาษาแอซเซมบลีก็คือความยุ่งยากในโปรแกรม ความเป็นเฉพาะตัว และความแตกต่างกันไปในแต่ละเครื่อง เดนนิส ริตชี (Dennis Ritchie) จึงได้คิดค้นพัฒนาภาษาใหม่นี้ขึ้นมาเมื่อประมาณต้นปี ค.ศ.1970 โดยการรวบรวมเอาจุดเด่นของแต่ละภาษาระดับสูงผนวกเข้ากับภาษาระดับต่ำ เรียกชื่อว่า ภาษาซี

           เมื่อภาษาซี ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีผู้ผลิต compiler ภาษาซี
ออกมาแข่งขันกันมากมาย ทำให้เริ่มมีการใส่ลูกเล่นต่างๆ เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อ ทาง American National Standard Institute (ANSI) จึงตั้งข้อกำหนดมาตรฐานของภาษาซีขึ้น เรียกว่า ANSI C เพื่อคงมาตรฐานของภาษาไว้
ไม่ให้เปลี่ยนแปลงไป



โครงสร้างของโปรแกรมภาษาซี และตัวอย่าง


                                  (ขอบคุณรูปจาก : www.slideshare.net )

          โปรแกรมในภาษาซีทุกโปรแกรมจะประกอบด้วยฟังก์ชันอย่างน้อย หนึ่งฟังก์ชัน คือ ฟังก์ชัน main โดยโปรแกรมภาษาซีจะเริ่มทำงานที่ฟังก์ชัน main ก่อน ในแต่ละฟังก์ชันจะประกอบด้วย

          1. Function Heading ประกอบด้วยชื่อฟังก์ชัน และอาจมีรายการของ argument (บางคนเรียก parameter) อยู่ในวงเล็บ

          2. Variable Declaration ส่วนประกาศตัวแปร สำหรับภาษาซี ตัวแปรหรือค่าคงที่ทุกตัวที่ใช้ในโปรแกรมจะต้องมีการประกาศก่อนว่าจะใช้งานอย่างไร จะเก็บค่าในรูปแบบใดเช่น interger หรือ real number

          3. Compound Statements ส่วนของประโยคคำสั่งต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็นประโยคเชิงซ้อน (compound statement) กับ ประโยคนิพจน์ (expression statment) โดยประโยคเชิงซ้อนจะอยู่ภายในวงเล็บปีกกาคู่หนึ่ง { และ } โดยในหนึ่งประโยคเชิงซ้อน จะมีประโยคนิพจน์ที่แยกจากกันด้วยเครื่องหมาย semicolon (;) หลายๆ ประโยครวมกัน และ อาจมีวงเล็บปีกกาใส่ประโยคเชิงซ้อนย่อยเข้าไปอีกได้


อ้างอิง : http://www.krukaewta.net/web1/ng23101/unit2/u2_computer_language.html
           
http://guru.sanook.com/6394/
             
                                        < ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ >

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย


Social Network

 
                                                 (ขอบคุณรูปจาก kanitthamsu.blogspot.com )
Social Network คือ เครื่อข่ายสังคมที่เปิดโอกาสให้แต่ละคนได้  ทำความรู้จักกัน  แลกเปลี่ยนความคิดเห็น แบ่งปันเรื่องราว รูปภาพ วีดีโอต่างๆ เป็นสังคมที่ทำให้คนที่ไม่ได้อยู่ใกล้กัน และไม่จำเป็นต้องรู้จักกันมาก่อน สามารถที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ 

 
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Social Network กันก่อนว่ามีกี่ประเภท ?

ประเภทของ Social Network
1. Identity Network (การเผยแพร่ตนเอง)
   ใช้สำหรับการเผยแพร่เรื่องราวส่วนตัวทางอินเตอร์เน็ต
2. Creative Network (การเผยแพร่ผลงาน)
  เป็นแหล่งที่สามารถเผยแพร่ผลงานได้

3. Interested Network (ความสนใจตรงกัน)
  เป็นการ บุ๊คมาร์ค เว็บที่สนใจไว้บนอินเทอร์เน็ต


4. Collaboration Network (การใช้ข้อมูล) คือ เป็นการร่วมกันพัฒนาซอฟต์แวร์               หรือ ส่วนต่างๆของซอฟต์แวร์

5. Gaming/Virtual Reality (โลกเสมือนจริง)  เกมส์ต่างๆ

6. Peer To Peer (P2P)


 

Social Network  กับนักเรียน
 
      ปัจจุบัน Social Network เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มนักเรียนอย่างเราๆที่มีการใช้ติดต่อสื่อสารกันอย่างแพร่หลาย และยังมีบทบาทกับระบบการศึกษาด้วย ผู้สอนจะสามารถประยุกต์ใช้ Social Media กับการศึกษานำมาเป็นช่องทางในการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทันต่อยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป
โดยเครื่องมือที่ทางสำนักเทคโนโลยี เพื่อการเรียนการสอน  แนะนำให้ครูนำไปปรับใช้
 
(ขอบคุณรูปจาก kunlathonstory.blogspot.com )

        1.       Facebook คือ เว็บไซต์สำหรับให้ครู และนักเรียนสามารถสื่อสาร และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกันได้ 
2.       Wordpress คือ เว็บไซต์สำเร็จรูปหรือ บล็อก ที่นักเรียน และครูสามารถสร้าง
บล็อก ส่วนตัว หรือในแต่ละรายวิชา สำหรับเผยแพร่ บทเรียนในแต่ละรายวิชา หรือ สร้างปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนได้
        3.       YouTube คือ เว็บไซต์ที่ใช้ในการแบ่งปันไฟล์วิดีโอ ครูสามารถอัพโหลด และเผยแพร่วิดีโอการสอนผ่านเว็บไซต์นี้ได้

4.       Twitter คือ เว็บไซต์ที่ใช้ในการสื่อสาร ข้อความสั้นๆ โต้ตอบกันอย่างรวดเร็ว

5.       Slideshare คือ เว็บไซต์ที่ใช้ในการแบ่งปันเอกสารต่างๆ
 
Social Network  กับสังคมไทย
 
                      (ขอบคุณรูปจาก www.readyplanet.com )
 
           อิทธิพลของ Social network คือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์
ระบบที่มีคอมพิวเตอร์อย่างน้อยกว่าสองเครื่องเชื่อมต่อกัน โดยใช้สื่อกลางและสามารถสื่อสารข้อมูลกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้

           เนื่องจากการใช้งานอินเตอร์เนตที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายมากและการใช้งานอีเมล์ในการรับส่งข้อมูลกันอย่างแพร่หลายเพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการสร้างกลุ่มของคนที่สนใจในเรื่องๆเดียวกันได้เริ่มมีการ
สร้างเวปไซต์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะกลุ่มขึ้นมา

 
การที่ยุคสมัยเปลี่ยนแปลงและก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้นักเรียนและสังคมไทยมีการใช้  Social Network
กันอย่างแพร่หลายจนเกิดการสำรวจ 10 อันดับที่ได้รับความนิยม

10 อันดับ Social Network ที่ได้รับความนิยม

1. MySpace.com                               6. Friendster.com
2. FaceBook.com                              7. SkyRock.com

3. Orkut.com                                     8. PerfSpot.com
4. Hi5.com                                         9. Bebo.com
5. Vkonakte.ru                                  10.Studivz.net

 

ประโยชน์ของ Social Network
Social Network การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ สื่อสารได้ในวงกว้าง และได้หลายรูปแบบ           เช่น ข้อความ รูปภาพ VDO ด้วยความที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว                 และตลอดเวลา จึงมีการนำมาใช้ในเชิงธุรกิจ ใช้ในการโปรโมทองค์กร สินค้า ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า   ได้ง่ายขึ้น
โทษของ Social Network
 
          ในโลกไซเบอร์ก็เหมือนสังคมรอบข้างตัวเรา ใส่หน้ากากเข้าหากัน เป็นธรรมดาของโลก

1.เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป
2.เป็นสังคมออนไลน์ที่กว้าง หากผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือขาดวิจารณญาณ อาจโดนหลอกลวงผ่านอินเทอร์เน็ต
3.เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ขโมยผลงาน หรือถูกแอบอ้าง เพราะ Social Network Service       เป็นสื่อในการเผยแพร่ผลงาน รูปภาพต่างๆ ได้
4.ข้อมูลที่ต้องการกรอก เพื่อสมัครสมาชิกและแสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network ยากแก่การตรวจสอบว่าจริงหรือไม่ ดังนั้นอาจเกิดปัญหาเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่กำหนดอายุการสมัครสมาชิก หรือการถูกหลอกโดยบุคคลที่ไม่มีตัวตนได้

ก่อนจากกันไปขอทิ้งท้ายด้วย....

               (ขอบคุณรูปจาก  www.thaigoodview.com )

         การใช้สื่อ Social Networkในด้านดี หรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้ว่าจะเลือกนำเอาไปใช้ ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและสังคมหรือจะนำไปใช้ให้เกิดโทษกับตนเองและสังคม

 

ก็ต้องใช้สติปัญญาในการวิเคราะห์ หรือพิจารณา คนที่เราคิดว่า
น่าจะเป็นคนดี สักวันหนึ่งอาจจะกลับกลายเป็นคนชั่วไปก็เป็นได้
ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นแน่นอน เพียงแต่เราจะมองโลกในแง่บวก หรือแง่ลบ เท่านั้นเอง เช่นเดียวกับเหรียญที่มี 2 ด้านเสมอก็เฉกเช่นเดียวกับคนที่มีทั้งคนดีและคนชั่ว และใน Social Network ก็เช่นเดียวกันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย

อ้างอิง :
( ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ^^ )

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เรื่องที่นักเรียนสนใจ



อุกรณ์วิเศษ...สู่...โลกอนาคต

             การ์ตูนของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงอย่าง เรื่อง โดเรมอน ถ้าจะกล่าวถึง เจ้าหุ่นยนต์แมวตัวนี้
คง
ไม่มีใครไม่รู้จัก เจ้าหุ่นยนต์แมวแสนวิเศษนี้ มีนามว่า โดราเอมอนมีความเป็นมาจาก แมวจรจัด   กับตุ๊กตาล้มลุก โดยโดราเอมอน มาจาก โดราเนโกะ – แมวหลงทาง และ เอมอน – คำเรียกเรียกต่อท้ายของเด็กชายสมัยก่อน ซึ่งมันมีกระเป๋ามิติที่ 3 หรือกระเป๋า 4 มิติ
ที่มีของวิเศษมากมาย

    ทำให้บริษัท
Fuji Xerox ผลิตสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากของวิเศษ โดเรมอนขึ้นมา....
จากโลกการ์ตูนสู่ชีวิตจริง มาดูของวิเศษจากโดราเอมอนที่มีจริงแล้วกันเถอะ!
1. หุ่นยนต์หมากรุก

doragadget_3     สมัยที่การ์ตูน
โดราเอมอนวางแผงนั้น เทคโนโลยีเรื่องหุ่นยนต์
และคอมพิวเตอร์ยังไม่เจริญขนาดที่จะมีความคิดซับซ้อนและเรียนรู้ได้ด้วย     ตัวเอง แต่ในปัจจุบันที่ศาสตร์ด้านคอมพิวเตอร์เจริญก้าวหน้าไปมากแล้ว จนการมีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ช่วยมนุษย์ในการตัดสินใจอาจกลายเป็นเรื่องธรรมดา การสร้างหุ่นยนต์เล่นหมากรุกอย่างที่มีในโดราเอมอนจึงกลายเป็นเรื่องที่ทำได้จริง และก็มีนักพัฒนาช่วยกันจนทำมันสำเร็จแล้วด้วย




doragadget_12

 
     โดยบริษัทฟูจิ ซีรอกซ์ ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกแคมเปญในการเติมเต็มความฝันในโลกไอที ด้วยการหยิบยกเอาของวิเศษในการ์ตูนโดราเอมอนมาเป็นต้นแบบ และของวิเศษชิ้นแรกที่ถูกทำขึ้นนั้นคือ “หุ่นยนต์หมากรุก” เครื่องนี้นั่นเอง

2. เครื่องส่งเสียงระยะไกล
          ปกติแล้วเวลาที่เราพูดคุยกัน ทุกคนที่อยู่ระหว่างเรากับคู่สนทนาก็จะได้ยินเสียงไปด้วยใช่ไหม? แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราสามารถส่งเสียงไปยังเป้าหมายได้ โดยที่คนอื่นระหว่างทางไม่ได้ยินเสียงใดๆล่ะ! ...นี่คือไอเดียของ “เครื่องส่งเสียงระยะไกล” ซึ่งเป็นหนึ่งในของวิเศษของโดราเอมอน


doragadget_4

 
          โดยเจ้าเครื่องส่งเสียงระยะไกลนี้ เป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นที่สองที่บริษัทฟูจิ ซีรอกซ์ ประเทศญี่ปุ่น ทำตามแคมเปญของตัวเอง ในปัจจุบันของวิเศษชิ้นนี้อยู่ในขั้นตอนการทดลองใช้งานเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนจะใช้ได้ผลตามต้องการซะด้วย ลองดูจากคลิปด้านล่างนี้กันเลย...



3. เครื่องพิมพ์สามมิติ “เมก้า เมคเกอร์”
          ไอเดียของเจ้าเครื่องนี้ก็เนื่องมาจากที่โนบิตะอยากได้เรือบังคับ เนื่องจากอิจฉาซูเนโอะนั่นเอง โดราเอมอนเลยนำเจ้า “เมก้า เมคเกอร์” ออกมา โดยในการ์ตูนนั้นจะให้เราวาดภาพสิ่งที่ต้องการลงบนกระดาษ จากนั้นก็ใส่เข้าไปในเครื่อง และเครื่องจะทำการผลิตเป็นโมเดลที่ใช้งานได้จริงๆขึ้นมา

          โดยในปัจจุบันนั้น เทคโนโลยีด้านเครื่องพิมพ์สามมิติก็เป็นเรื่องจริงแล้ว และเข้าใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยต้นทุนการผลิตที่ไม่สูงมาก และตัวเครื่องเองก็มีขนาดเล็กลง ราคาต่ำลง จึงทำให้การหาซื้อมาใช้ในบ้านซักเครื่องเป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินฝันอีกต่อไป


doragadget_6

 
ด้วยเครื่องพิมพ์สามมิตินี้ เพื่อนๆสามารถสร้างอุปกรณ์ในชีวิตประจำวันอย่างพวกเคสโทรศัพท์ โมเดล หรืออาจจะซับซ้อนขึ้นมาอย่างชิ้นอุปกรณ์อิเลคโทรนิกที่แตกหัก หรือในปัจจุบันก็มีแบบแปลนแม้กระทั่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถใช้งานได้จริง หรือกับข่าวล่าสุดจากจีนที่ใช้เครื่องพิมพ์สามมิติสร้างบ้านกันเลย และยังมีสิ่งประดิษฐ์อีกหลายชิ้นที่ยังไม่ได้นำเสนอ

doragadget_7

สิ่งประดิษฐ์เทคโนโลยีของโลกแห่งความจริง ที่ใกล้เคียงกับ ของวิเศษของโดเรมอน
-          จอLCD หรือ มอนิเตอร์จอแบน
-          GPS (Global Positioning System)
-          ดาวเทียมจารกรรม และ กล้องวีดีโอวงจรปิด
-          โปรแกรม Photoshop
-          ฯลฯ
 
10 ของวิเศษจากโดราเอมอนที่อยากให้มีจริง
อันดับที่ 10. กับแกล้มเมาแอ๋
 
อันดับที่ 9. ผ้าคลุมล่องหน
 
อันดับที่ 8. เข็มกลัด 4 ฤดู
 
อันดับที่ 7. ชาผจญภัย
 
อันดับที่ 6. ยาเพิ่มจำนวน
 
อันดับที่ 5. ผ้าคลุมโต๊ะอาหารสารพัดนึก
(ชุดโต๊ะนักกิน)
 
อันดับที่ 4. เข็มกลัดทดสอบคู่รัก
 
อันดับที่ 3. คอปเตอร์ไม้ไผ่

อันดับที่
2. ยางลบ ลบหน้า

อันดับที่
1. ประตูไปที่ไหนก็ได้
 
อ้างอิง : www.kwique.com/gadget/article/doragadget
             www.youtube.com/watch?v=mjlGXFaD6EQ

        > ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้นะคะ <


เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

 
(ขอบคุณรูปจาก www.hrwm2011.org)
         ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างก้าวไกล ทำให้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า
และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรากันมากขึ้น เนื่องด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้อำนวยความสะดวกสบาย และยังสามารถเพิ่ม
ประสิทธิ์ภาพในการทำงานหลายๆด้าน 
         ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนมากไปกับเทคโนโลยีเหล่านี้  โดยเฉพาะ Internet และ Smartphone ที่พบเห็นได้บ่อยจึงเกิดคำนิยามว่า " สังคมก้มหน้า "

                    (ขอบคุณรูปจาก rmutrandbusiness.wordpress.com)

Ex การใช้เทคโนโลยีประจำวันที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้งาน เช่น

     1. การใช้ Internet เพื่อการค้นหาข้อมูล และ Social Network

     2. การใช้ Smartphone ในการสื่อสาร สนทนา หรือถ่ายรูป เป็นต้น

ประโยชน์และโทษ
จากการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน

(ขอบคุณรูปจาก hitech.sanook.com)
    





ประโยชน์
- ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- เป็นแหล่งความบันเทิง
- สามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็ว
- เข้าถึง Internet ได้ทุกที่ทุกเวลา

โทษ   - เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลายเป็นวัตถุนิยม
        
- มีความเสี่ยง ก่อให้เกิดการโจรกรรม
         - สนใจสิ่งรอบข้างน้อยลง





(ขอบคุณรูปจาก www.gazeteler.cc)

วันพุธที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

 
เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

                           (ขอบคุณรูปจาก www.hrwm2011.org)
         ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง และพัฒนาอย่างก้าวไกล ทำให้เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า
และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรากันมากขึ้น เนื่องด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้อำนวยความสะดวกสบาย และยังสามารถเพิ่ม
ประสิทธิ์ภาพในการทำงานหลายๆด้าน 
         ทำให้คนส่วนใหญ่ใช้เวลาส่วนมากไปกับเทคโนโลยีเหล่านี้  โดยเฉพาะ Internet และ Smartphone ที่พบเห็นได้บ่อยจึงเกิดคำนิยามว่า " สังคมก้มหน้า "
          

   (ขอบคุณรูปจาก rmutrandbusiness.wordpress.com)

Ex การใช้เทคโนโลยีประจำวันที่กลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้งาน เช่น

     1. การใช้ Internet เพื่อการค้นหาข้อมูล และ Social Network

     2. การใช้ Smartphone ในการสื่อสาร สนทนา หรือถ่ายรูป เป็นต้น
          
ประโยชน์และโทษ
จากการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน

(ขอบคุณรูปจาก hitech.sanook.com)
    





ประโยชน์
- ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี
- เป็นแหล่งความบันเทิง
- สามารถเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร ได้อย่างรวดเร็ว
- เข้าถึง Internet ได้ทุกที่ทุกเวลา

โทษ   - เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลายเป็นวัตถุนิยม
        
- มีความเสี่ยง ก่อให้เกิดการโจรกรรม
         - สนใจสิ่งรอบข้างน้อยลง




(ขอบคุณรูปจาก www.gazeteler.cc)