วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่องที่นักเรียนสนใจ



สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาวบล็อกที่น่ารักทุกคน ^w^
      วันนี้บล็อกเกอร์มีเกมส์มาฝากทุกคนกัน สำหรับคนที่ชอบเกมส์แนวผี ๆ สยองขวัญก็มีอยู่หลายเกมส์ด้วยกันมาเริ่มจากของต่างประเทศกันก่อนเลย เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จัก และเคยเล่น dreadout เป็นเกมส์อินดี้แนวหลอนที่พัฒนามาจากบริษัทเกมในอินโดนีเซีย แต่ที่อยากจะแนะนำเพื่อน ๆ ซึ่งเป็นเกมจากฝีมือคนไทยเอง_ต้องนี่เลย ผีไทยน่ากลัวที่สุดในโลก - Hospital Haunted BE LOST บอกเลยว่าถ้าใครเล่น "อย่างกับอยู่ในบ้านผีสิงออนไลน์ " เกริ่นนำมาก็เยอะล่ะ ไปดูต่อกันเลยดีกว่าว่ามันมีดียังไง ? ถึงน่ากลัวที่สุดในโลก Let' s go.....  



 

แว่นตา 3 มิติอย่าง Oculus Rift ถือว่าเป็นอุปกรณ์เล่นเกมส์ล้ำอนาคตและสร้างมุมมองการเล่นเกมส์แบบใหม่ที่ตื่นตาตื่นใจเสมือนจริงกว่าเดิม แต่เมื่ออุปกรณ์ดังกล่าวถูกใช้เล่นกับเกมส์เขย่าขวัญแล้วเมื่อไร ความสะพรึงกลัวจะบังเกิดเป็นทวีคูณแบบขนหัวลุก ล่าสุด มีผู้พัฒนาเกมส์ชาวไทยสร้างเกมส์แนวดังกล่าวด้วยกลิ่นอายสยองขวัญแบบไทยๆบนแพลตฟอร์ม Oculus Rift ถึงขั้นเกมเมอร์ต่างประเทศสะพรึงกลัวกับเกมส์นี้มาแล้ว
 
ต่อไป...เราจะพาทุกท่านไปสะพรึงด้วยกันกับคลิปนี้ (เรียกน้ำย่อยกันเบา ๆ ก่อน )
 
 
 
> ภาพจากผู้มีประสบการณ์ ที่เค้าเล่นกันจริง ๆ มาแล้ว อิอิ <


เป็นไงกันบ้างน้าา ดูสิขนาดชาวต่างชาติยังเป็นสภาพนี้เลย ฮาฮา
 
 
 
 
 
Hospital Haunted BE LOST เกมส์เขย่าขวัญพัฒนา โดยนักศึกษาชาวไทยจากคณะดิจิทัลมีเดีย สาขาการออกแบบอินเทอร์แอคทีฟ และเกม มหาวิทยาลัยศรีปทุม นำเสนอเรื่องราว และโครงเรื่องจริงของคดีฆาตกรรมปี พ.ศ. 2551 หนุ่มก่อโศกนาฎกรรม ฆ่าโหด 5 ศพ แต่พบเพียงแค่ 4 ศพ เหลืออีก 1 ศพ ที่ยังเป็นปริศนา 
 
hospital-haunted-be-lost-screen-1
 
วิธีการเล่นเกมส์นี้ ผู้เล่นจะต้องผจญภัยภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องความหลอนแบบอบอวลด้วยสไตล์แบบไทยๆ ไม่ว่าจะเป็น เสียงตุ๊กแก, เสียงดนตรีไทยครั้งอดีตกาล ราวกับเข้าสู่ผิดยุคสมัย เสียงกรีดร้องโหยหวน รวมถึงเหล่าผีไทยมาปรากฏกายเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว
 
 
hospital-haunted-be-lost-screen-2
 
เกมส์นี้มีการพิสูจน์มาแล้วจาก POiiSED เกมเมอร์พากษ์เกมส์ชาวต่างประเทศซึ่งการันตีได้ว่า เล่นจริง-หลอนจริง-สะพรึงจริง แสดงถึงอารมณ์เล่นเกมส์ชวนแทบสะดุ้งทุกนาที
 
ผู้เล่นเกมส์สามารถ ดาวน์โหลดเกมส์  Hospital Haunted BE LOST บน PC ได้ฟรีที่ https://share.oculus.com/app/the-hospital-haunted-be-lost จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ Oculus Rift ในการเล่นเกมส์
 
ทั้งนี้ ผู้เล่นสามารถเล่นเกมส์ได้อีกช่องทางที่นิทรรศการแสดงศิลปนิพนธ์ “เนื้อหอม โปรยเสน่ห์ความคิด สะกิดไอเดียฟุ้ง” ในวันที่ 6-9 ส.ค.58 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ หอศิลป์วัฒนธรรม กรุงเทพฯ ชั้น 1
 
hospital-haunted-be-lost-screen-3
 
hospital-haunted-be-lost-screen-4
 
ก่อนจะจากกันมีอีกคลิปสำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบการพากย์เกมส์ บล็อกเกอร์ขอนำเสนอ พี่เอก heart rocker คนนี้บล็อกเกอร์ชอบส่วนตัว ^^ ถ้าใครชอบเหมือนกัน อย่าพลาด !! รีบกดเข้าไปดูคลิปพร้อม ๆ กับบล็อกเกอร์กันเล๊ยยย ลุยยยยย......
 
 
 

แหล่งที่มา :

รูปภาพ :
 
 
 

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 8 : Review / แนะนำการใช้งาน 1 โปรแกรม


Review / แนะนำการใช้งาน 1 โปรแกรม
   สวัสดีค่าาาาา...
   วันนี้บล็อกเกอร์จะมารีวิว App แต่งรูปให้เพื่อน ๆ กันน้าา ซึ่งโปรแกรมแต่งรูปเนี่ยก็มีเยอะมาก ๆ เลย_งั้นบล็อกเกอร์ขอเลือกมา 1 App ละกัน App นั้นก็คือ...... MAGIC HOUR เชื่อว่ามีหลายคน ที่รู้จัก App นี้เป็นอย่างดีแล้ว (คุณก็ข้ามไปเลยนะคะ) ส่วนคนที่ยังไม่รู้จัก เรามาเริ่มทำความรู้จักกันเลยดีกว่า ^^
 
Magic Hour : แอพนี้เจอทั้งแบบเสียเงิน 1.99$ และแบบฟรีนะคะ โหลดฟรี!! ที่ App Store หรือPlay Store
ตอนเรา search อาจเจอแต่แบบฟรีนะคะ ให้คลิกเข้าไปแล้วเลือก Related ค่ะ จะเจอแบบเสียเงิน

ถามว่า...แบบเสียเงิน กับแบบฟรี มันต่างกันตรงไหน?
ต่างกันที่ Filter Market ค่ะ
ถ้าแบบฟรี จะโหลด Filter Market ได้เพิ่มแค่ 5 Filter เท่านั้น
แต่แบบเสียเงิน จะโหลดได้ไม่อั้นค่ะ
Filter ในทีนี้ จะเป็นแบบที่ ผู้ใช้ทั่วโลก แต่งภาพ แล้วแชร์มาออนไลน์กันนะคะ
 
 
***เมื่อเพื่อน ๆ โหลดมาเสร็จให้ไปตั้งค่าใน Magic Hour เพื่อให้ภาพชัดก่อนนะคะ ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ ไปตั้งหรือยัง สำหรับคนที่ยังไม่ตั้งค่าก็ตั้งไว้เลยนะ เพราะจะทำให้ภาพคมชัด เมื่อเซฟรูปหลังจากการแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตาม บล็อกเกอร์ มาเลย.....

 
ตามลูกศรขาวแดงเลยนะ
 
 
 
ตั้งค่าเป็น High แล้วรึยีง ถ้ายังก็ตั้งให้เหมือนตามภาพกันเลย ^__^

ต่อไปเข้าสู่หน้าจอ App กันเลยนะ

 

เข้ามาเจอแบบนี้
ง่ายๆเลยนะ Take Photo ก็ถ่ายรูปใหม่
Photo Album ก็ดึงภาพจากเครื่อง
Manage Filters คือ จัดการกับ Filter ของเรา
รูปฟันเฟือง ด้านขวามือ คือ Settings ตั้งค่าโปรแกรมต่างๆ
ล่างสุด คือ ไฮไลท์ ของ App นี้จ้า FREE ! Filter Market Go
ส่วนที่ทำให้เราชอบแอพนี้มากกกกกกก


มาดูทีละส่วนกันนะ
---TAKE PHOTO---


 
 

ตรงนี้จะมีตัวเลือกหลายสิ่ง
ด้านบนก่อนนะ
1. ตัว X คือปิด เพื่อกลับไปหน้าแรก ข้างบนนู้นน
2. รูปมือ บนจอสีดำนั่น ก็เอาไว้กดชัตเตอร์ตรงหน้าจอ ตรงไหนก็ได้ในเส้นประนั้น (อันนี้ไว้สำหรับคนที่อยากถ่ายตัวเองด้วยกล้องหลังอ่ะ นึกภาพออกใช่มะ คือถ้ากดตรงปุ่มชัตเตอร์รูปกล้องตรงนั้นมันเล็งยากไง เค้าเลยทำฟังก์ชันนี้ขึ้นมา ก่อนที่เราจะรู้ตัวว่า อ้าววว กดตรงปุ่ม + Volumn ที่ข้างเครื่องก็ได้นี่นา)
ถ้าเราเปิดใช้งาน หน้าจอจะเป็นแบบในรูปค่ะ คือตรงภาพที่ถ่ายจะมีกรอบเส้นประ และรูปมือบนจอขึ้นมา ถ้าไม่ขึ้นแสดงว่ายังไม่ได้เปิดใช้นะจ้ะ
3. รูป หน้าต่าง เป็นตาราง 9 ช่องที่หน้าจอเรา ช่วยให้ถ่ายภาพได้อย่างมีศิลปะมากขึ้น (มั้ง 55 )
4. รูป กล้อง พร้อมลูกศร เอาไว้เปลี่ยนเลือกใช้กล้องหน้า หลัง สลับไปมา

ด้านล่างหน้าจอ
1. Album สำหรับเลือกภาพที่อยู่ในมือถือของเรา
2. กล้อง เป็นปุ่มชัตเตอร์นั่นเอง
3. ลำโพง เอาไว้เปิด - ปิดเสียงชัตเตอร์จ้า (เผื่อไว้แอบถ่าย เย้ยย !! ไม่ใช่นะ เพื่อไม่ให้เสียงรบกวนคนอื่นต่างหาก)

ต่อไปตามดูฟันเฟืองกันค่ะ ว่ามีอะไรให้ตั้งค่าบ้าง
---SETTINGS---

 
 
 


1. Start by taking Photo ถ้าเราออนตัวนี้ เมื่อเปิดเข้าแอพมา มันจะเปิดกล้องให้เราอัตโนมัติเลย
2. Save Location ถ้าออน คือ มันจะเก็บสถานที่ที่เราถ่ายภาพเอาไว้
3. Save Original Photo ถ้ามันออน มันจะเซฟภาพทีละ 2 ภาพ คือ ภาพที่เราถ่ายจริง แสงจริง กับภาพที่เรา  แต่งเสร็จแล้ว
4. Always See the Guides คือ จะโชว์คำแนะนำการใช้งานตลอดปีตลอดชาตินั่นเอง ถามว่ารำคาญมั๊ย ใช่เลย ขอ off ไว้แล้วกันนะ 55
5. Select Resolution ระหว่าง Standard กับ High อันนี้เราไม่แน่ใจว่าตัวฟรี จะมี High มั๊ย แต่ที่เราใช้เป็นเสียเงินอ่ะ ลองโหลดมาดูกันนะ
6. Share ไปยัง Social Network ต่างๆ facebook  twitter  foursquare Tumblr Flickr Dropbox Posterous Cyworld me2day โอยยย เยอะมาก ไม่รู้จักเลย ส่วนตัวเราไม่เคยใช้เลย save อย่างเดียว อยากแชร์ก็ไปแชร์ที่แอพนั้นเองอีกทีเอา 5555

และแล้ววว...ก็มาถึง น้องไฮไลท์ของ App นี้
---- Free Filter Market Go-----

 เจ้านี่แหละค่ะ ! คำตอบ !!!! ที่ตามหามานาน 55 เราจะชอบรูปภาพของคนอื่น คือแบบทำไมภาพของคนอื่น สีภาพเค้า ส๊วยยยย....สวยยยย ลองมาทุก Filter แล้ว ไม่ได้สีแบบเค้าเลย T^T
 
 
Photobucket
 
 
นอกจากจุดเด่นในการสร้าง Filter ตัวเองได้แล้ว
ยังสามารถเลือก Download Filter จากเพื่อนๆทั่วมุมโลกได้ที่
” Filter Market Go” บนหน้าแรก
สามารถเลือกดาวน์โหลดทั้งหมด ได้ Freee…โดนไม่ต้องเสียเพิ่มเลย
ที่สำคัญ สวยๆทั้งนั้น
 
เมื่อเรากดเลือกเข้าไป สักอันอ่ะ
จะมีหน้าตาให้เราดูภาพ Before - After แบบนี้จ้า
 
 
 
 
มาๆๆ มาต่อกันเลยเนอะ
เราก็กดถ่ายรูป หรือเลือกรูปจากอัลบั้มเรามานะ  จะได้หน้าตาแบบนี้
 
 
 
 
จะมีให้เลือก Flip (กลับด้านของภาพอ่ะ) ตามภาพนี้
ถ้ากดปุ่มซ้ายมือ 1 ครั้ง จะได้ภาพกลับด้านจากซ้ายไปขวา (จากรูป 1 เป็นรูป 2)
ส่วนถ้ากดปุ่ม ขวามือ จะเป็นการหมุนภาพ จากภาพ 1 เป็นภาพ 3 4 5 ตามลำดับการกดแต่ละครั้งจ้า




เมื่อหมุนสำเร็จ ก็กดดันเลย (ปุ่ม Done ไง อิอิ)

มันจะเข้ามาที่หน้าจอนี้ก่อนนะ



ถ้าต้องการแต่งภาพเองให้ไปที่ Make your own filter ด้านล่าง

 
มีให้เลือกหลายสิ่งตามเคย
อันแรก สำหรับคนที่ใช้โปรแกรมแต่งภาพอยู่แล้วน่าจะคุ้นกันดี
เป็น Curves ปรับสีของภาพจ้า
All ปรับทั้งภาพ ทุกสี
Red ปรับสีแดง Green ปรับสีเขียว Blue ปรับสีน้ำเงิน
ลองๆดึง Curves ดูนะจ้ะ ไม่รู้จะอธิบายยังไง
 

 
ตัวต่อมาคือ Adjust
ตัวนี้ปรับ 3 อย่าง คือ Saturation, Brightness and Contrast จ้า
Saturation ง่ายๆเลยคือ สีจัดจ้านแค่ไหน ดึงไปทางบวก สีแปร๊ด สีจัดจ้านอ่ะ
Brightness ความสว่างของภาพ เพิ่มสีขาวเข้าไปในภาพ ยิ่งบวกยิ่งขาว
Contrast เป็นเรื่องของความคมชัด



ตัวที่สาม Vignette เป็นขอบภาพ
มีสองอย่าง ขอบขาว กับขอบดำ
ไม่ใช่กรอบนะ มันเป็นฟุ้งๆ ในภาพ ตามภาพเลยอ่ะ

 
ส่วนต่อมาก็คือ Textures แปลเป็นไทยว่า พื้นผิวอ่ะ
เหมือนทำพื้นผิวของรูปภาพของเรา ให้เหมือนอะไรซักอย่าง เช่น กระดาษยับ สมุดโน้ต อะไรแนวนี้
 
 
สุดท้ายก็ Frames จ้า
กรอบรูปภาพนั่นเอง
 
สำหรับปุ่มข้างบนนะ
สามเหลี่ยมหันซ้ายสีขาวนั่น เอาไว้ย้อนกลับหน้าเมนู
ลูกศรตีโค้งอันถัดมา เป็นตัว Undo ย้อนกลับสิ่งที่เราแต่งไปแล้ว เมื่อกี้
รูปคนในกรอบคือ ย้อนกลับไป Restart เป็นภาพดั้งเดิมเลย
BW คือทำภาพให้เป็นภาพขาวดำโดยอัตโนมัติจ้า
 
 
ยังไม่หมดแค่นี้นะ หลังเรากดดันแล้ว (ปุ่ม Done)
ให้เลือก TiltShift
 
จะเป็นการเพิ่ม ความเบลอ หาจุดโฟกัส ให้กับภาพของเรา
ให้ดูมีมิติมากขึ้นจ้า
มีให้เลือกแบบวงกลม กับสีเหลี่ยมผืนผ้า
ปรับขนาดของทั้งสองอย่างได้ โดยใช้สองนิ้วลากออกให้ใหญ่ขึ้นนะ
ตรง out in คือเลือกว่า เราจะปรับตรงไหน วงนอก หรือ วงใน นั่นเอง
 
 
 
เลือกได้แล้วก็กดดันเล้ยยยย

ถ้าอยากดูภาพต้นฉบับให้กดปุ่ม original ค้างไว้นะ จะเป็นภาพต้นฉบับของเราจ้า
Share คือ แชร์บนโซเชียลเน็ตเวิร์ค ส่วน Save คือบันทึกภาพลงเครื่องของเรานะ
ห้ามลืมกด Save เด็ดขาด
ถ้าเราไปกดปุ่ม Done มันจะถามเราว่า แน่ใจเหรอที่จะกลับไปหน้าเมนู ถ้ากด Confirm ไปปั๊ปป
ตายละ ไม่ได้ Save ให้เรา ต้องมานั่งแต่งใหม่แต่แรก (อันนี้เราเป็นบ่อยเลย ชอบกดดัน 55)

ทีนี้ เราอยากจะแชร์ Filter ที่เราสร้างขึ้นมาเองบ้าง
อยากให้เพื่อนๆได้โหลดกัน ก็ไปที่ Save Filter ได้เล้ยย

 
เพื่อนๆลองทำกันดูนะ แล้วอย่าลืมมาอวดกันน้าาา วันนี้ก็จบไปแล้วนะกับการรีวิวโปรแกรมแต่งรูป บายยยย เจอกันใหม่สัปดาห์หน้าค่าาาา ^w^
 
 
แหล่งที่มา (ข้อมูลและรูปภาพ) :
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

WEEK 7 : คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์



คอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 
สวัสดีค่ะ วันนี้บล็อคเกอร์จะชวนทุกคนมาเรียนรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนไม่ว่าบ้านไหนก็มีและได้ใช้ทำงานกันอยู่ตลอด สำหรับสังคมในปัจจุบัน ช่วยให้เราสะดวกสบายขึ้น และยังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย งั้นเราอย่ามาเสียเวลากันเลยดีกว่า ไปทำความรู้จักกันให้มากยิ่งขึ้นไปกันเล๊ยยยย...

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ คอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ (computer) หรือในภาษาไทยว่า คณิตกรณ์ เป็นเครื่องจักรแบบสั่งการได้ที่ออกแบบมา เพื่อดำเนินการกับลำดับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ โดยอนุกรมนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ เมื่อพร้อมส่งผลให้คอมพิวเตอร์สามารถแก้ปัญหา
ได้มากมาย
คอมพิวเตอร์ถูกประดิษฐ์ออกมาให้ประกอบไปด้วยความจำ
รูปแบบต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูล อย่างน้อยหนึ่งส่วนที่มีหน้าที่ดำเนินการคำนวณเกี่ยวกับตัวดำเนินการทางตรรกศาสตร์ และตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ และส่วนควบคุมที่ใช้เปลี่ยนแปลงลำดับของตัวดำเนินการ โดยยึดสารสนเทศที่ถูกเก็บไว้เป็นหลัก อุปกรณ์เหล่านี้จะยอมให้นำเข้าข้อมูลจากแหล่งภายนอก และส่งผลจากการคำนวณตัวดำเนินการออกไป
หน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์มีหน้าที่ดำเนินการกับคำสั่งต่าง ๆ ที่คอยสั่งให้อ่าน ประมวล และเก็บข้อมูลไว้ คำสั่งต่าง ๆ ที่มีเงื่อนไขจะแปลงชุดคำสั่งให้ระบบและสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ เป็นฟังก์ชันที่สถานะปัจจุบัน
คอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เครื่องแรกถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 (ค.ศ. 1940 – ค.ศ. 1945) แรกเริ่มนั้น คอมพิวเตอร์มีขนาดเท่ากับห้องขนาดใหญ่ ซึ่งใช้พลังงานมากเท่ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) สมัยใหม่หลายร้อยเครื่องรวมกัน
คอมพิวเตอร์ในสมัยใหม่นี้ผลิตขึ้นโดยใช้วงจรรวม หรือวงจรไอซี (Integrated circuit) โดยมีความจุมากกว่าสมัยก่อนล้านถึงพันล้านเท่า และขนาดของตัวเครื่องใช้พื้นที่เพียงเศษส่วนเล็กน้อยเท่านั้น คอมพิวเตอร์อย่างง่ายมีขนาดเล็กพอที่จะถูกบรรจุไว้ในอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์มือถือนี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาดเล็ก และหากจะมีคนพูดถึงคำว่า "คอมพิวเตอร์" มักจะหมายถึงคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของยุคสารสนเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีคอมพิวเตอร์ชนิดฝังอีกมากมายที่พบได้ตั้งแต่ในเครื่องเล่นเอ็มพีสามจนถึงเครื่องบินบังคับ และของเล่นชนิดต่าง ๆ จนถึงหุ่นยนต์อุตสาหกรรม
เป็นไงกันบ้างน้า กับการเริ่มต้นศึกษาเพียงแค่คอมพิวเตอร์  บล็อคเกอร์เชื่อว่าคงมีหลายๆคนที่ไม่คาดคิดว่าคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันทุกวันเนี่ย จะมีอะไรมากกว่าที่คิด ต่อไปเราไปทำความรู้จักกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์กันต่อเลยดีกว่า 


เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือ คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์ก (computer network; ศัพท์บัญญัติว่า ข่ายงานคอมพิวเตอร์) คือเครือข่ายการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างคอมพิวเตอร์จำนวนตั้งแต่
สองเครื่องขึ้นไปสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ การเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ
ในเครือข่าย (โหนดเครือข่าย) จะใช้สื่อที่เป็นสายเคเบิลหรือสื่อไร้สาย เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จัก
กันดีคือ อินเทอร์เน็ต


การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทสำคัญมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะมีการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างแพร่หลาย จึงเกิดความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกัน เพื่อเพิ่มความสามารถของระบบให้สูงขึ้น และลดต้นทุนของระบบโดยรวมลง
การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกันในเครือข่าย ทำให้ระบบมีขีดความสามารถเพิ่มมากขึ้น การแบ่งการใช้ทรัพยากร เช่น หน่วยประมวลผลหน่วยความจำหน่วยจัดเก็บข้อมูลโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีราคาแพงและไม่สามารถจัดหามาให้ทุกคนได้ เช่นเครื่องพิมพ์ เครื่องกราดภาพ (scanner) ทำให้ลดต้นทุนของระบบลงได้
อุปกรณ์เครือข่ายที่สร้างข้อมูล, ส่งมาตามเส้นทางและบรรจบข้อมูลจะเรียกว่าโหนดเครือข่าย. โหนดประกอบด้วยโฮสต์เช่นเซิร์ฟเวอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและฮาร์ดแวร์ของระบบเครือข่าย อุปกรณ์สองตัวจะกล่าวว่าเป็นเครือข่ายได้ก็ต่อเมื่อกระบวนการในเครื่องหนึ่งสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกระบวนการในอีกอุปกรณ์หนึ่งได้
เครือข่ายจะสนับสนุนแอปพลิเคชันเช่นการเข้าถึงเวิลด์ไวด์เว็บ, การใช้งานร่วมกันของแอปพลิเคชัน, การใช้เซิร์ฟเวอร์สำหรับเก็บข้อมูลร่วมกัน, การใช้เครื่องพิมพ์และเครื่องแฟ็กซ์ร่วมกันและการใช้อีเมลและโปรแกรมส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีร่วมกัน
องค์ประกอบพื้นฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ 

- คอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 เครื่อง
- เน็ตเวิร์คการ์ด(NIC : Network Interface Card)
- สายสัญญาณและอุปกรณ์รับส่งข้อมูล เช่น เราท์เตอร์ เกตเวย์ เป็นต้น
- โปรโตคอล(Protocol) หรือ ภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้สื่อสารผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
- ระบบปฏิบัติการเครือข่าย(NOS : Network Operating System)
ประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

- สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- สามารถแชร์ซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์ได้ เช่น เครื่องพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮาร์ดดิสก์ เป็นต้น
- สามารถรวมการจัดการไว้ในเครื่องที่เป็น server
- สามารถใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์(e-mail) เพื่อติดต่อผู้ที่อยู่ไกลกันได้อย่างรวดเร็ว
- การสนทนาผ่านเครือข่าย(chat)
- การประชุมทางไกล(video conference)
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อซอฟแวร์และฮาร์ดแวร์จำนวนมาก เนื่องจากใช้ร่วมกันได้

รูปแบบการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์


1. โทโปโลยีแบบบัส
เป็นโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ลักษณะการทำงานของเครือข่าย โทโปโลยีแบบบัส คืออุปกรณ์ทุกชิ้นหรือโหนดทุกโหนด ในเครือข่ายจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับสายสื่อสารหลักที่เรียกว่า”บัส” (BUS) เมื่อโหนดหนึ่งต้องการจะส่งข้อมูลไปให้ยังอีกโหนดหนึ่งภายในเครือข่าย จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าบัสว่างหรือไม่ ถ้าหากไม่ว่างก็ไม่สามารถจะส่งข้อมูลออกไปได้ ทั้งนี้เพราะสายสื่อสารหลักมีเพียงสายเดียว 
1
ข้อดี
1. ใช้สายส่งข้อมูลน้อยและมีรูปแบบที่ง่ายในการติดตั้ง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและบำรุงรักษา
2. สามารถเพิ่มอุปกรณ์ชิ้นใหม่เข้าไปในเครือข่ายได้ง่าย
ข้อเสีย
1. ในกรณีที่เกิดการเสียหายของสายส่งข้อมูลหลัก จะทำให้ทั้งระบบทำงานไม่ได้
2. การตรวจสอบข้อผิดพลาดทำได้ยาก ต้องทำจากหลาย ๆจุด
2. โทโปโลยีแบบดาว    
โทโปโลยีแบบดาว (Star Topology) เป็นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือ ข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB) หรือสวิตช์ (Switch) หรือเครื่อง ๆ หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาญที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย และควบคุมเส้นทางการสื่อสาร ทั้งหมด เมื่อมีเครื่องที่ต้องการส่งข้อมูลไปยังเครื่องอื่น ๆ ที่ต้องการในเครือข่าย เครื่องนั้นก็จะต้องส่งข้อมูลมายัง HUB หรือเครื่องศูนย์กลางก่อน แล้ว HUB ก็จะทำหน้าที่กระจายข้อมูลนั้นไปในเครือข่ายต่อไป
2
ข้อดี
– การติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำ ได้ง่าย หากมีเครื่องใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบได้ง่าย และศูนย์ กลางสามารถตัดเครื่องที่เสียหายนั้นออกจากการสื่อสาร ในเครือข่ายได้เลย โดยไม่มีผลกระทบกับระบบเครือข่าย
ข้อเสีย
– เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น เครื่องศูนย์กลาง หรือตัว HUB เอง และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในเครื่องอื่น ๆ ทุกเครื่อง การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้ง จะต้องเกี่ยวเนื่องกับเครื่องอื่นๆ ทั้งระบบ
3. โทโปโลยีแบบวงแหวน (RING)  
เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทั้งเครื่องที่เป็นผู้ให้บริการ(Server) และเครื่องที่เป็นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ข้อมูลข่าวสารที่ส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ในเครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีจุดปลายหรือเทอร์มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือแต่ละเครื่อง จะมีรีพีตเตอร์ (Repeater) ประจำแต่ละเครื่อง 1 ตัว ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นต่อการติดต่อสื่อสารเข้าในส่วนหัวของแพ็กเกจที่ส่ง และตรวจสอบข้อมูลจากส่วนหัวของ Packet ที่ส่งมาถึง ว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยข้อมูลนั้นไปยัง Repeater ของเครื่องถัดไป
3
ข้อดี
1.ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลาย ๆ เครื่องพร้อม ๆ กัน โดยกำหนดตำแหน่งปลายทางเหล่านั้นลง
ในส่วนหัวของแพ็กเกจข้อมูล Repeaterของแต่ละเครื่องจะทำการตรวจสอบเองว่า ข้อมูลที่ส่งมาให้นั้นเป็น
ตนเองหรือไม่
2. การส่งผ่านข้อมูลในเครือข่ายแบบ RING จะเป็นไปในทิศทางเดียวจากเครื่องสู่เครื่อง จึงไม่มีการชนกัน
ของ สัญญาณข้อมูลที่ส่งออกไป
3.คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์กมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน
ข้อเสีย
1.ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหาย ข้อมูลจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้ และจะทำ
ให้เครือข่ายทั้งเครือข่าย หยุดชะงักได้
2.ขณะที่ข้อมูลถูกส่งผ่านแต่ละเครื่อง เวลาส่วนหนึ่งจะสูญเสียไปกับการที่ทุก ๆ Repeater จะต้องทำการตรวจ
สอบตำแหน่งปลายทางของข้อมูลนั้น ๆ ทุก ข้อมูลที่ส่งผ่านมาถึง
4. โทโพโลยีแบบต้นไม้ (Tree Topology)
มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนำสัญญาณแยกออกไปเป็นแบบกิ่งไม่เป็นวงรอบ โครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆกันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นชั้น ๆ  แต่ละกลุ่มจะมีโหนดแม่ละโหนดลูกในกลุ่มนั้นที่มีการสัมพันธ์กัน การสื่อสารข้อมูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานีอื่นๆได้ทั้งหมด เพราะทุกสถานีจะอยู่บนทางเชื่อม และรับส่งข้อมูลเดียวกัน ดังนั้นในแต่ละกลุ่มจะส่งข้อมูลได้ทีละสถานี โดยไม่ส่งพร้อมกัน
4
5. โทโพโลยีแบบผสม (Hybrid Topology)
เป็นเครือข่ายที่ผสมผสานโทโพโลยีแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพียงเครือข่ายเดียว เช่น การเชื่อมเครือข่ายแบบวงแหวน แบบดาว และแบบบัสเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน
5
เครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN) เป็นตัวอย่างที่ใช้ลักษณะโทโพโลยีแบบผสมที่พบเห็นมากที่สุด เครือข่ายแบบนี้จะเชื่อมต่อทั้งเครือข่ายขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หลากหลายที่เข้าด้วยกัน ซึ่งอาจจะถูกเชื่อมต่อจากคนละจังหวัด หรือคนละประเทศก็ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีสาขาแยกย่อยตามจังหวัดต่าง ๆ สาขาที่หนึ่งอาจจะใช้โทโพโลยีแบบดาว อีกสาขาหนึ่งอาจใช้โทโพโลยีแบบบัส การเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกันอาจใช้สื่อกลางเป็นไมโครเวฟ หรือดาวเทียม เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก

และรูปภาพ

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ O-net คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ

WEEK 6 : วิเคราะห์ข้อสอบ O-net คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ

                    สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีตัวอย่างโจทย์ข้อสอบ O-net คอมพิวเตอร์ มาฝาก
            ที่ต้องใช้สอบมาให้ได้วิเคราะห์เล่น ๆ ก่อนที่จะเจอของจริงในสนามสอบกัน ไปดูกันเลย....



(ขอบคุณรูปจาก : education.kapook.com)


1. ข้อใดเป็นเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายทั้งหมด 

      ก. Wi-Fi    IP

      ข. Wi-Fi    Bluetooth

      ค. 3G         ADSL

      ง. 3G         Ethernet


วิเคราะห์

- wifi เป็นระบบเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย 
- Bluetooth เป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย จากโทรศัพท์เข้า คอมพิวเตอร์ 
- 3G เป็นการบริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงเช่นกัน  
- ADSL เป็นสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบสายตามบ้านทั่วไปนะคะ บ้านใครมีก็ใช้          
   ADSL แล้วค่อย ขยายต่อใส่ WIFI  
- Ethernet เป็นเครือข่าย คล้ายๆ อินเตอร์เน็ตคะ แต่เป็นวงแคบๆ อาจจะภายในองค์กร


เฉลย ข้อ ข






2.  สัญญาณในคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณชนิดใด
         
        ก. อนาล็อก                      

        ข. ดิจิตอล   

        ค. ไฮบริค   
               
        ง. ไฟฟ้า

        จ. อิเล็กทรอนิกส์



วิเคราะห์

สัญญาณดิจิตอล (Digital Signal) หมายถึง สัญญาณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลแบบไม่ต่อเนื่อง (Discrete Data)                       ที่มีขนาดแน่นอนซึ่งขนาดดังกล่าวอาจกระโดดไปมาระหว่างค่าสองค่า คือ สัญญาณ ระดับสูงสุดและสัญญาณระดับต่ำสุด ซึ่งสัญญาณดิจิตอลนี้เป็นสัญญาณที่คอมพิวเตอร์ใช้ในการทำงานและ ติดต่อสื่อสารกัน หรือกล่าวได้ว่าสัญญาณดิจิตอลก็คือการที่เรานำเอาสัญญาณ Analog (อนาล็อก) มาแปลงให้อยู่ในรูปแบบของตัวเลข (0,1)
เฉลย ข้อ ข



3.  หน่วยข้อมูลที่เล็กที่สุดในระบบคอมพิวเตอร์เรียกว่า

       ก. บิต    ( 1 กับ 0 )  
         
        ข. ไบต์  
 
        ค. ฟิลด์                                        

        ง. เร็คคอร์ด

        จ. ไฟล์


วิเคราะห์

Bit ย่อมาจาก binary digit คือ ลำดับชั้นของข้อมูลที่เล็กที่สุด ข้อมูลที่จะทำงานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้นั้น จะต้องเอามาแปลงให้อยู่ในรูปของเลขฐานสองเสียก่อนคอมพิวเตอร์ถึงจะเข้าใจ และทำงานตามที่เราต้องการ เมื่อแปลงเเล้วจะได้ตัวเลขเเทนสถานะเปิดและปิดของสัญญาณไฟฟ้าที่เรียกว่า Bit เพียงสองค่านั้นคือ Bit 0 และ Bit 1 

เฉลย ข้อ ก



4.  IP Address คือ

        ก.  หมายเลยประจำตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ในเครือข่าย

        ข.  โพรโทคอลที่ใช้ในการเชื่อมโยงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต


        ค.  หมายเลขประจำของเครื่องเซิร์ฟเวอร์


        ง.  ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต


        จ. ถูกทุกข้อ




วิเคราะห์

Ip address คือ เลขรหัสประจำคอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่บนเครือข่าย ซึ่งประกอบด้วยตัวเลข 4 ชุด
และมีเครื่องหมายจุดขั้นระหว่างชุด ยกตัวอย่างเช่น 192.168.1.1 เป็นต้น หรือนิยมเรียกสั้นๆว่า IP 
ซึ่งตัวเลข IP แต่ละเครื่องจะไม่ซ้ำกัน 

เฉลย ข้อ ก



5. ข้อใดกล่าวถึง Protocol ได้ถูกต้อง

      ก.  การสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต

       ข. การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ห่างไกล


       ค.  การบริหารวารสารและข่าวสารบนอินเทอร์เน็ต


       ง. เครื่องมือที่ช่วยในการสืบค้นข้อมูลในรูปแบบเอกสาร


       จ.  ภาษาการสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ในระบบอินเทอร์เน็ต



วิเคราะห์

โปรโตคอล (Protocol) คือ ข้อกำหนด หรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ หรือภาษาสื่อสารที่ใช้เป็นภาษากลางในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ด้วยกัน การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกเชื่อมโยงกันไว้ในระบบจะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้นั้น จำเป็นจะต้องมีการสื่อสารที่เรียกว่า โปรโตคอล  เช่นเดียวกับคนเราที่ต้องมีภาษาพูดเพื่อให้สื่อสารเข้าใจกันได้ 

เฉลย ข้อ จ


ที่มา :
http://tongrod-tongrod.blogspot.com/2012/02/o-net.html

http://www.howto108.com/ip-address-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD.html

http://www.wanyai.ac.th/OnetT6.pdf

http://www.mindphp.com/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD/73%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3/2044protocol%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

[ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้นะคะ ^^ ]